สาร
สารจากกรรมการบริหารตัวแทนบริษัท
มุ่งสู่สังคมที่ผู้คนไม่ต้องใช้ความกล้าในการมีชีวิตอยู่
- เทคโนโลยีใหม่เพื่อทำให้ "การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม" และ "ชีวิตที่สมบูรณ์" เกิดขึ้นได้จริง -
ทาดาชิ มัตสึงูจิ กรรมการบริหารตัวแทนบริษัทและประธานบริษัท
ก้าวข้ามคลื่นลูกใหญ่แห่งการเปลี่ยนแปลง
พวกเรากำลังเผชิญกับปัญหาสังคมระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาจำนวนประชากร ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และปัญหาเรื่องอาหาร ฯลฯ เราอยู่ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำคัญซึ่งยากต่อการคาดการณ์ เช่น การตระหนักถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศเราในสงครามเย็นครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน และการบุกยูเครนของรัสเซีย ฯลฯ นอกเหนือไปจากการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ การพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น AI และบล็อกเชน ฯลฯ ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบสังคม อุตสาหกรรม และการดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคลตั้งแต่ระดับพื้นฐาน หรือกล่าวคือ "การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล (DX หรือ Digital Transformation)" ก็กำลังมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการยึดมั่นในปรัชญาพื้นฐานในการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท พร้อมๆ กับก้าวข้ามคลื่นลูกใหญ่จำนวนมากในอดีต พวกเรากลุ่มบริษัท OSP ยังคงฝ่าฟันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสูงกว่าบริษัทอื่นๆ บริการที่ได้รับความไว้วางใจมากกว่าบริษัทอื่นๆ และความสามารถในการพัฒนาที่ไม่เป็นรองใคร โดยมีความสมดุลระหว่างความเจริญรุ่งเรืองของบริษัทกับความสุขของพนักงานเป็นเป้าหมาย
ด้วยความทุ่มเทของทุกท่าน กลุ่มบริษัท OSP สามารถเติบโตขึ้นเป็นกลุ่มบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ซึ่งไม่อาจพบได้ง่ายในระดับสากล โดยมีบริษัท 9 แห่งในประเทศญี่ปุ่นและอีก 6 แห่งในต่างประเทศ และพนักงานรวมทั้งสิ้น 4,700 ราย ผมอยากจะขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณอีกครั้งต่อลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ และชุมชนท้องถิ่นทุกท่านที่ช่วยสนับสนุนพวกเราจนถึงวันนี้ รวมถึงพนักงานทุกท่านที่ร่วมเดินเคียงข้างด้วยกันมา
ค้นหาความรู้และเพิ่มพูนความรู้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ประวัติความเป็นมาของกลุ่มบริษัท OSP คือประวัติความเป็นมาของการปฏิรูป เราได้ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องมาตามยุคสมัย โดยมีความเชื่ออย่างแรงกล้าในฐานะบริษัทขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ในการปฏิรูปให้สำเร็จ เราจำเป็นต้องจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่สามารถ "ค้นหาความรู้" ซึ่งจะขยายขอบเขตของความรู้ และ "เพิ่มพูนความรู้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น" ซึ่งเป็นการขุดความรู้ให้ลึกลงไปได้ในระดับสูง ในครั้งนี้ เราได้รวมส่วนงาน R&D และจัดตั้ง "ศูนย์นวัตกรรม" ซึ่งเป็นฐานการวิจัยและพัฒนาที่ใช้นวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation) ผ่านความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ และสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์แห่งอนาคตและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วยความรวดเร็ว โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฉลองครบรอบ 95 ปีของการก่อตั้งบริษัท
นอกจากนี้ ภายในศูนย์ฯ เราได้เปิด "O-SPIRAL" ซึ่งเป็นพื้นที่สื่อสารแลกเปลี่ยนความรู้ที่สามารถโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มบริษัท OSP พูดคุยกับเพื่อนๆ ที่มีความฝันร่วมกัน และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นทางปัญญา ในอนาคต เราจะยังคงสร้างสรรค์กระแสใหม่ๆ ในสังคมและอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ซึ่งมีความหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่จำกัดไอเดียความคิด ผมหวังว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกท่านจะได้ใช้ "O-SPIRAL" เป็นพื้นที่ในการส่งเสริมผู้คนและเทคโนโลยี และเป็นฐานในการทำให้ชุมชนท้องถิ่นมีชีวิตชีวา
ทุกวันนี้มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นในระดับโลก เนื่องจากโลกาภิวัตน์ทางสังคมและเศรษฐกิจ ถึงแม้เราจะตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมโดยรอบทุกสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ยุคของ "ทฤษฎีความกลมกลืนล่วงหน้า (Pre-established Harmony)" ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ เป็นไปตามการคาดการณ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการปฏิรูปไม่ใช่การคาดการณ์ หากแต่เป็นการตัดสินใจโดยอาศัยการรวบรวมข้อมูลที่เชื่อถือได้และการเตรียมพร้อมที่หลากหลาย ซึ่งสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ และไม่พลาดสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง กลุ่มบริษัท OSP จะยังคงปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่สนับสนุนวิถีชีวิตที่มีความสมบูรณ์ซึ่งจำเป็นในเวลาที่เหมาะสมตามสถานการณ์ทางสังคมในขณะนั้น โดยการฝ่าฟันกับแนวคิดที่มีอยู่เดิม ทำลายแนวคิดที่ยึดติด และใช้สายตาในการสังเกตที่ช่วยเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ
แผนการเติบโตของ OSP ปี 2022
พวกเรากำลังมุ่งสู่การเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัทในปี 2027 จึงได้กำหนดแผนการบริหารจัดการระยะกลาง "OSP Growth Plan 2022" โดยเป็นกลยุทธ์การเติบโตเพื่อมุ่งสู่ "แผน 100 ปีของกลุ่มบริษัท OSP"
ซึ่งจะประกอบด้วย 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ "Neo Package" "New Market" "Novel Method" และ "for SDGs"
"Neo Package / บรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่"
เราจะส่งเสริม "Green Package" และ "PX (Package Transformation)" ที่ช่วยลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างสรรค์วิถีชีวิตที่มีความสมบูรณ์
ลำดับแรกคือ "Green Package" เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม และจะมีการพัฒนาแพ็คเกจที่ประหยัดทรัพยากร ลดการสูญเสียอาหาร และมีส่วนสนับสนุนสังคมที่ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนให้เหลือศูนย์อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
ถัดมาคือ "PX (Package Transformation)" ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่ผมสร้างขึ้นมา หรือกล่าวคือเป็นการนำ DX, IT และวิทยาการหุ่นยนต์ (Robotics) เข้ามาใช้ในงานบรรจุภัณฑ์ ซึ่งนอกจากจะสามารถปรับปรุงกระบวนการแล้ว ยังช่วยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ด้วยการนำการจัดหาและฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่มีความเป็นนวัตกรรมเข้ามาใช้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ใหม่ๆ
ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ เราจะทำให้ "Neo Package" ที่ปฏิรูปผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนโมเดลธุรกิจเกิดขึ้นได้จริง และส่งเสริมการสร้างสรรค์วิถีชีวิตที่มีความสมบูรณ์
"New Market / ตลาดใหม่"
เราจะขยายไปสู่สาขาอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ โดยการพัฒนา "วัสดุบรรจุภัณฑ์" ที่เป็นไปตามคุณค่าทางจริยธรรม นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศด้วยการสร้าง OSP Pan-Pacific Supply Network
เราจะพัฒนาวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่เป็นไปตามคุณค่าทางจริยธรรมของผู้บริโภค ซึ่งเพิ่มมูลค่าใหม่ให้กับบรรจุภัณฑ์อุตสาหกรรมและบรรจุภัณฑ์โลจิสติกส์ เช่น ความสะดวก ความสวยงามตามฟังก์ชันการใช้งาน และลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยจะปฏิรูปวิธีการขนย้ายและส่งมอบ
OSP AUSTRALIA PTY LTD ซึ่งหยุดกิจการไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้กลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2022 ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะขยายไปสู่ตลาดใหม่ในภูมิภาครอบแปซิฟิก (Pacific Rim) โดยมีญี่ปุ่นเป็นศูนย์กลางและใช้ประโยชน์จากรูปแบบการผลิต (Monozukuri) ที่ได้สั่งสมมาในญี่ปุ่น เพิ่มเติมขึ้นจากการขยายไปสู่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
"Novel Method / วิธีการใหม่ๆ"
เรามุ่งเป้าที่จะเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) โดยส่งเสริมการปฏิรูปวิธีการทำงานโดยใช้ DX และ AI โดยจะนำบริการแบบสมัครสมาชิก (Subscription) แบบเหมาจ่าย เข้ามาใช้กับเครื่องติดฉลากและเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์ เพื่อขจัดปัญหาการขาดแคลนแรงงานสำหรับลูกค้า
เราได้ประกาศ "Industry 4.0 เวอร์ชัน OSP" ในโอกาสฉลองครบรอบ 90 ปี และปัจจุบันมีเครื่องพิมพ์ดิจิทัลหลายสิบเครื่องที่ทำงานแบบไร้คนควบคุมในเวลากลางคืนที่โรงงานฟูกูโอกะ โอซาก้า และโทจิงิ ในอนาคต เรายังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปวิธีการทำงานและเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ด้วยโรงงานอัจฉริยะที่ไม่ได้รับผลกระทบจากผู้คน เวลา และระยะทาง นอกจากนี้ เราจะตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับระยะเวลาส่งสอบที่สั้นลง ด้วยการขยายธุรกิจ "Digital Print Base" ซึ่งเป็นร้านรับพิมพ์สำหรับการพิมพ์ดิจิทัลโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับลูกค้าในพื้นที่ห่างไกล
และเรากำลังดำเนินการพัฒนาการออกแบบด้วย AI โดยมีเป้าหมายคือ ปริมาณ 50% ของงานออกแบบทั้งหมด เรามุ่งเป้าที่จะสร้างการแบ่งแยกงานระหว่าง AI และมนุษย์ในการสร้างสรรค์งานออกแบบ โดยที่ AI จะสร้างสรรค์งานออกแบบที่ให้ความสบายใจและจดจำได้ง่าย ในขณะที่มนุษย์จะสร้างสรรค์งานออกแบบที่ให้การกระตุ้นและเต็มไปด้วยความรู้สึก นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำ OSP Digital Colour Guide และแปลงตัวอย่างสี (Color Chart) ให้เป็นดิจิทัลอีกด้วย ทำให้การระบุสีอย่างรวดเร็วและแม่นยำเชื่อถือได้เกิดขึ้นได้จริง โดยใช้อินพุตจากกล้องของสมาร์ตโฟน นอกจากนี้ ด้วยการนำบริการแบบสมัครสมาชิก (Subscription) ซึ่งเป็นการใช้งานแบบเหมาจ่าย เข้ามาใช้กับเครื่องติดฉลากและเครื่องบรรจุภัณฑ์ ช่วยให้สามารถลดอุปสรรคในการลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์ และช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดแรงงานในหน้างานการผลิตได้
"for SDGs / สู่สังคมที่ยั่งยืน"
เราจะทุ่มเทเพื่อลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมของธุรกิจทั้งหมด และสร้างการรีไซเคิลวัสดุสำหรับกระดาษรองหลังสติ๊กเกอร์ (Release Paper) นอกจากนี้ จะยังคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของครอบครัวแต่ละคน เพื่อให้พนักงานสามารถทำให้การผสานชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกันเกิดขึ้นได้จริง
เราจะสร้างกลไกในการรีไซเคิลกระดาษรองหลังสติ๊กเกอร์ (Release Paper) มุ่งเป้าที่จะทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และเปลี่ยนธุรกิจสติกเกอร์และฉลากให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน เราจะดำเนินการปฏิรูปวิธีการทำงานซึ่งรองรับสภาพแวดล้อมของครอบครัวแต่ละคนและรูปแบบการดำเนินชีวิตที่หลากหลาย เช่น การเลี้ยงดูบุตร การเปลี่ยนตำแหน่งงานโดยไม่ย้ายถิ่นฐาน และสำนักงานแบบกระจายศูนย์ ฯลฯ เราจะจัดการผสานชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกัน โดยการผสานวิธีการทำงานและชีวิตของแต่ละบุคคลอย่างยืดหยุ่นและในมิติที่สูง และก่อให้เกิดประสิทธิผลร่วมกันด้วยการบริหารจัดการทั้งสองด้านอย่างลื่นไหล ปรับปรุงคุณภาพการทำงานและการดำเนินชีวิต และมีความรู้สึกเติมเต็มและมีความสุข
สร้างโอกาสให้เท่าเทียมกัน ปฏิบัติต่อเอกลักษณ์ส่วนบุคคลอย่างยุติธรรม
กลุ่มบริษัท OSP มุ่งเป้าที่จะทำให้เกิดสังคมที่ผู้คนไม่ต้องใช้ความกล้าในการมีชีวิตอยู่ และเป็นบริษัทที่ไม่ต้องใช้ความกล้าในการทำงาน เราเชื่อว่าสิ่งที่จำเป็นสำหรับพนักงานไม่ใช่ความกล้า หากแต่เป็นกระบวนการเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จโดยสนองความอยากรู้อยากเห็น และเราจะมุ่งเป้าที่จะเป็นบริษัทซึ่งมีการประเมินและโอกาสในการเติบโตที่เท่าเทียมกัน ตลอดจนปฏิบัติต่อเอกลักษณ์ส่วนบุคคลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างยุติธรรม กลุ่มบริษัท OSP จะฝ่าฟันเพื่อมุ่งเป้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทำให้ชีวิตที่สมบูรณ์เกิดขึ้นได้จริงอย่างต่อเนื่อง เพื่อสังคมที่สดใส โลกที่สวยงาม และลูกหลานในอนาคต
